การสอบเข้ามหาวิทยาลัยถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของนักเรียนไทยหลายคน เพราะนอกจากจะเป็นการก้าวเข้าสู่ระดับการศึกษาที่สูงขึ้นแล้ว ติวสอบเข้ามหาลัยยังเป็นก้าวแรกสู่เส้นทางอาชีพในอนาคตอีกด้วย แต่ด้วยระบบการศึกษาที่มีการแข่งขันสูง หลายคนอาจพบว่าตนเองยังเตรียมตัวไม่พร้อมในเวลาที่เหลืออยู่เพียงไม่นานก่อนวันสอบจริง ติวสอบเข้ามหาลัยอย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบเร่งด่วนภายใน 30 วันก็ยังสามารถทำได้
หากมีความตั้งใจจริง วางแผนอย่างเป็นระบบ และใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะแม้เวลาจะน้อยลงทุกวัน แต่ถ้าใช้วิธีการที่ถูกต้อง โอกาสในการทำคะแนนดีและสอบติดก็ยังคงมีอยู่เริ่มต้นด้วยการประเมินศักยภาพของตนเองว่ามีพื้นฐานในแต่ละวิชาเพียงใด เพื่อกำหนดแนวทางการอ่านหนังสือให้ตรงจุดมากที่สุด ติวสอบเข้ามหาลัยเพราะการอ่านหนังสือเร่งด่วนภายในระยะเวลาอันจำกัดนั้นไม่ใช่การอ่านทุกหน้าในทุกบทของหนังสือ แต่เป็นการเลือกอ่านเฉพาะสิ่งที่สำคัญ
ความกดดันในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนสอบอาจทำให้หลายคนรู้สึกท้อแท้
สิ่งที่ออกสอบบ่อย และสิ่งที่เรายังอ่อนอยู่ การจัดลำดับวิชาที่จะติวควรเรียงตามน้ำหนักคะแนนที่สอบ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราสอบ TCAS รอบที่เน้น GAT PAT และวิชาสามัญ ติวสอบเข้ามหาลัยแบ่งสัดส่วนการอ่านหนังสือให้เหมาะกับจำนวนข้อสอบในแต่ละวิชา รวมถึงความถนัดของเราเอง ถ้าเราอ่อนวิชาไหนก็ควรเผื่อเวลาให้มากกว่าวิชาที่ถนัดการวางแผนอ่านหนังสือภายใน 30 วันควรเริ่มต้นจากการแบ่งวันเป็นสัปดาห์ โดยเฉลี่ยแล้วในแต่ละสัปดาห์ควรอ่านให้ครบทุกวิชาเพื่อให้สมองได้รับข้อมูลอย่างต่อเนื่องและไม่ลืมเนื้อหาก่อนหน้า ในสัปดาห์แรกควรเน้นการปูพื้นฐานและทบทวนภาพรวมของแต่ละวิชา
ติวสอบเข้ามหาลัยเน้นจุดที่ยังไม่แม่นหรือยังไม่เข้าใจ ส่วนสัปดาห์ที่สองและสามให้ลงลึกในหัวข้อสำคัญและฝึกทำโจทย์ให้มากที่สุด เพื่อฝึกความเข้าใจและความคล่องมือ ส่วนสัปดาห์สุดท้ายควรเป็นช่วงเวลาแห่งการสรุปเนื้อหา ฝึกทำข้อสอบจริงย้อนหลังอย่างเข้มข้น และจำลองสถานการณ์สอบจริงเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบและบริหารเวลาให้เป็นเทคนิคสำคัญในการอ่านหนังสือเร่งด่วนคือการอ่านแบบมีเป้าหมายในแต่ละวัน เช่น วันนี้ต้องทำความเข้าใจเรื่องกริยา 3 ช่องในภาษาอังกฤษให้จบ และทำแบบฝึกหัดให้ได้อย่างน้อย 30 ข้อ หรือวันนี้จะต้องสรุปบทกรณีคำนวณในฟิสิกส์ให้เสร็จ
การติวแบบเร่งด่วนไม่จำเป็นต้องทำคนเดียว การหาเพื่อนที่มีเป้าหมาย

พร้อมทั้งทำโจทย์อย่างน้อย 5 แบบ เป็นต้น คอร์สติวสอบเข้ามหาลัยการตั้งเป้าหมายเช่นนี้จะช่วยให้เรามีวินัยและไม่ถูกรบกวนจากสิ่งรอบตัวจนเสียเวลา นอกจากนี้การทำสรุปแบบ Mind Map หรือ Short Note เป็นการทบทวนในรูปแบบที่ทำให้สมองจำง่ายขึ้น เมื่อกลับมาอ่านอีกรอบจะประหยัดเวลาและช่วยให้เข้าใจ
ภาพรวมของเนื้อหาได้รวดเร็วสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการจัดสรรเวลาพักผ่อนและการดูแลสุขภาพ ติวสอบเข้ามหาลัยเพราะการอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนโดยไม่พักจะส่งผลให้สมองล้าเกิดความเครียด ติวสอบเข้ามหาลัยและประสิทธิภาพในการจดจำจะลดลง ดังนั้นควรแบ่งเวลาให้ตัวเองได้พักบ้าง เช่น อ่านหนังสือ 50 นาทีแล้วพัก 10 นาที หรือแบ่งเป็นช่วงเช้า กลางวัน เย็น และเวลาก่อนนอนให้สมดุล เพื่อให้ร่างกายและจิตใจพร้อมรับข้อมูลใหม่ในแต่ละวัน